เฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งที่หลายคนมีความต้องการ เพราะเมื่อนำมาตกแต่งบ้านจะช่วยให้บ้านดูสวยงามน่าอยู่มากขึ้น เพราะฉะนั้นการมีเฟอร์นิเจอร์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีในบ้าน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าเฟอร์นิเจอร์นั้นมีหลากหลายแบบให้คุณได้เลือกใช้เยอะมาก และการที่จะตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ให้สวยงามนั้นจะต้องรู้จักเลือกอย่างเหมาะสม นี้เราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับเฟอร์นิเจอร์กันว่ามีกี่แบบและแต่ละแบบนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

1.เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน
เฟอร์นิเจอร์ประเภทไม้ ที่เน้นการตั้งอยู่กับที่มากกว่าการเคลื่อนย้ายไปมา สำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมีการออกแบบมาใช้งานเฉพาะห้องเท่านั้น เนื่องจากไม่เน้นการเคลื่อนย้ายนั่นเอง และนอกจากนี้แล้วเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ก็ยังใช้เวลาในการติดตั้งค่อนข้างนาน และมีราคาที่ค่อนข้างสูงในระดับหนึ่ง
2.เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
เป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปที่มีความทันสมัยสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้อย่างสะดวก สบาย หรือหากใครที่ชอบจัดบ้านเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้เหมาะกับคุณมาก ๆ เนื่องจากสามารถออกแบบและเปลี่ยนมุมต่าง ๆ ได้ตามความต้องการอย่างง่ายดาย ที่น่าสนใจคือเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้มีหลายแบบให้เลือกเยอะมาก สามารถหาซื้อได้ง่ายตามร้านเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ และหากคุณชื่นชอบแบบไหนก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการ เพราะมีหลายแบบให้เลือกเยอะมาก เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้มีการผลิตออกมาจำนวนมาก ดังนั้นหากคุณเป็นคนที่ชอบจัดบ้านใหม่บ่อยๆ เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวจะเหมาะกับคุณมากที่สุด
3.เฟอร์นิเจอร์น็อคดาวน์
เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถติดตั้งและประกอบเองได้ง่ายมาก ๆ อีกทั้งยังสามารถเคลื่อนย้ายไปมาได้อย่างสะดวก สบาย รวดเร็วอีกด้วย สำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ก็จะมีหลากหลายแบบให้เลือก แต่มีข้อแนะนำว่าคุณไม่ควรถอดเข้าออกบ่อย ๆ เพราะจะทำให้ส่งผลเสียต่อเฟอร์นิเจอร์ได้ ทำให้มีอายุการใช้งานที่น้อยลงอีกด้วย ดังนั้นหากคุณจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ควรเลือกและตัดสินใจให้ดีว่าจะใช้แบบไหนและติดตั้งที่บริเวณไหน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องถอดและเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ เพราะการถอดและเคลื่อนย้ายบ่อย ๆ จะทำให้เฟอร์นิเจอร์เกิดความเสียหายได้ อาจจะมีการหลุด หรือโยกได้ ซึ่งคงไม่ดีนัก
เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่เรานำมาฝาก ดังนั้นควรเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสมจะดีกว่า แต่นอกจากความสวยงามแล้วก็ต้องไม่ลืมที่จะคำนึงถึงคุณภาพการใช้งานด้วยว่ามีความทนทานมากแค่ไหน รวมถึงควรคำนึงด้วยว่ามีประโยชน์ต่อการใช้งานมากน้อยอย่างไร เพื่อที่จะได้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่บ่อยๆ นั่นเอง